นักวิชาการ ในประเทศไทยได้แนะนำให้ธุรกิจไทยพัฒนาระดับธรรมาภิบาลองค์กรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน การประชุมที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ มีนักวิชาการจากหลายสาขาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและยกตัวอย่างถึงความสำคัญของการมีระบบธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งในองค์กรธุรกิจ คำแนะนำนี้เน้นว่าการปรับปรุงธรรมาภิบาลจะช่วยเพิ่มศักยภาพขององค์กรในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจและเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วในยุคปัจจุบัน
ประเด็นสำคัญจาก: นักวิชาการ แนะธุรกิจไทยยกระดับธรรมาภิบาลองค์กร สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน
ในที่ประชุมได้มีการระบุว่า การที่ธุรกิจไทยจะสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการภายในที่โปร่งใสและยุติธรรม ธรรมาภิบาลองค์กรถือเป็นกรอบสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มพูนความรู้และขีดความสามารถด้านนี้แก่ผู้บริหารและพนักงานในองค์กร
ประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงยังมีการเชื่อมโยงระหว่างธรรมาภิบาลที่ดีและความสามารถในการระดมทุนจากตลาดทุน ซึ่งส่งผลต่อการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ องค์กรที่มีธรรมาภิบาลที่ดีย่อมเป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากมีความมั่นคงทางการเงินและมีโอกาสในการพัฒนาที่ดีกว่า
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
งานวิจัยที่นำเสนอต่อที่ประชุมแสดงให้เห็นว่าธรรมาภิบาลองค์กรที่ดีมีผลกระทบชีวิตมาก โดยเฉพาะในแง่ของการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ ตัวเลขจากการสำรวจธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งมักจะมีผลประกอบการที่เหนือกว่าตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ
นักวิชาการยังได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดทุนที่ให้ความสำคัญกับองค์กรที่มีธรรมาภิบาลดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทุกธุรกิจจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
สรุปข่าวทั้งหมด
การพัฒนาและยกระดับธรรมาภิบาลองค์กรเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในวงการธุรกิจไทย นักวิชาการเสนอแนะให้มีการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อนาคตของธุรกิจไทยขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืน
