
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคอย่าง ASEAN และ APEC ซึ่งมีส่วนสำคัญในการนำประเทศไทยกลับมาสู่เวทีการค้าโลกอีกครั้ง การประชุมทั้งสองเวทีนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การที่ประเทศไทยได้กลับมามีบทบาทสำคัญในการประชุมเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐและภาคเอกชนในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น และสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ การประชุมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรวมตัวกันของผู้นำเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เกิดการเจรจา การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้า การลงทุน และความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว
ประเด็นสำคัญจาก: ศุภจี โชว์ความสำเร็จประชุม อาเซียน–เอเปค นำไทยกลับสู่เวทีการค้าโลก
การเข้าร่วมและการเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับนานาชาติอย่าง ASEAN และ APEC เป็นเครื่องมือสำคัญที่ประเทศไทยใช้ในการผลักดันประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศในหลายมิติ การประชุมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพของประเทศในฐานะผู้นำระดับภูมิภาค แต่ยังเป็นช่องทางในการสร้างความเข้าใจและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เช่น การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคหลังโควิด-19 ที่หลายประเทศต่างต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยสามารถกำหนดทิศทางเศรษฐกิจร่วมกับประเทศคู่ค้าสำคัญ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการฟื้นตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การที่ประเทศสามารถแสดงบทบาทที่แข็งขันในเวทีนานาชาติ ย่อมส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประชุมเหล่านี้ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจและการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกใน ASEAN และ APEC ก่อให้เกิดการไหลเวียนของเงินทุน แรงงาน และองค์ความรู้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ การที่ผู้นำและผู้แทนจากหลายประเทศได้มารวมตัวกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุน การประชุมในลักษณะนี้ยังช่วยสร้างเวทีสำหรับการหารือในประเด็นที่ละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อน เช่น ข้อตกลงทางการค้า มาตรฐานอุตสาหกรรม และการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลไกที่ช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความร่วมมือในระยะยาว การเข้าร่วมอย่างแข็งขันของประเทศไทยในเวทีเหล่านี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ความสำเร็จที่ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้กล่าวถึงนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การเข้าร่วมประชุม แต่ยังรวมถึงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากการเจรจาและข้อตกลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น การประชุม ASEAN และ APEC เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกสามารถผลักดันวาระสำคัญของตนเอง รวมถึงการสร้างฉันทามติในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน การเจรจาทางการค้าที่เกิดขึ้นในการประชุมเหล่านี้มักจะนำไปสู่การลดอุปสรรคทางการค้า การเปิดเสรีทางการลงทุน และการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในประเทศไทย การมีส่วนร่วมในเวทีระดับนี้ยังเปิดโอกาสให้ประเทศไทยสามารถนำเสนอศักยภาพและจุดเด่นของตนเอง เช่น ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและบริการ การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ และการเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและกระตุ้นการส่งออก
นอกจากนี้ การประชุมทั้งสองเวทียังเป็นที่รวมของผู้นำและผู้ทรงอิทธิพลจากทั่วโลก ซึ่งเป็นโอกาสทองในการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ทางการทูต การที่ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพหรือมีบทบาทสำคัญในการประชุมเหล่านี้ ย่อมส่งผลให้ประเทศได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นในเวทีโลก ความร่วมมือที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและท้าทายในปัจจุบัน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงทางอาหาร การมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในการประชุมเหล่านี้จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถบูรณาการเข้ากับระบบเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมั่นคง
สรุปข่าวทั้งหมด
โดยสรุปแล้ว การที่ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของการประชุม ASEAN และ APEC ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ยืนยันว่าประเทศไทยกำลังกลับมามีบทบาทสำคัญบนเวทีการค้าโลกอีกครั้ง การเข้าร่วมและการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการประชุมระดับนานาชาติเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้เกิดการเจรจาทางการค้าและการลงทุน แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การที่ประเทศไทยสามารถแสดงศักยภาพและความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโลก จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติและกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว ความสำเร็จนี้จึงเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการผลักดันและนำเสนอประเทศไทยสู่สายตานานาชาติอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวขับเคลื่อนให้ประเทศไทยพร้อมรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต












