
“โรม” โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ได้แสดงความผิดหวังต่อท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรับผิดชอบในการบูรณาการงานปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน แม้ปัญหาดังกล่าวจะถูกประกาศให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ไปแล้วก็ตาม ท่าทีดังกล่าวสร้างความกังวลในหมู่ประชาชนและผู้ที่ติดตามการแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาชญากรรมออนไลน์ยังคงส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสังคมไทย ทั้งในด้านทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน ทำให้ความหวังในการแก้ไขปัญหาที่เคยถูกประกาศไว้กลับดูเหมือนจะห่างไกลจากความเป็นจริง
ประเด็นสำคัญจาก: “โรม” ผิดหวังท่าที “อนุทิน” ปราบสแกมเมอร์ สวนทางบอกเป็นวาระแห่งชาติ
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เปิดประเด็นถึงความผิดหวังต่อการทำงานของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ โดยชี้ให้เห็นว่าหลังจากนายอนุทินได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บูรณาการงานนี้ ปรากฏว่ายังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมหรือความคืบหน้าใด ๆ ที่เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ประกาศให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เป็น “วาระแห่งชาติ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติงานและการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ทั้งที่นายอนุทินมีอำนาจและศักยภาพในการสั่งการณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกระทรวงมหาดไทยเอง
ความผิดหวังของนายรังสิมันต์ โรม มีสาเหตุมาจากความไม่เห็นผลของการทำงานที่เกิดขึ้น โดยเขาได้ยกตัวอย่างการแก้ปัญหาในหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เรื่องการย้ายหน่วยงานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและเมียนมา ที่ใช้เป็นฐานในการหลอกลวงคนไทย ซึ่งนายรังสิมันต์เคยนำเสนอข้อมูลและหลักฐานให้รัฐบาลรับทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเห็นการดำเนินการที่เข้มแข็ง การปราบปรามกลับดูเชื่องช้าและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ปล่อยให้ประชาชนตกเป็นเหยื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดคำถามถึงความจริงจังและความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่ประกาศเป็น “วาระแห่งชาติ” นี้
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ในระหว่างการอภิปราย นายรังสิมันต์ โรม ยังได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เคยมีการหารือกันในกรรมาธิการความมั่นคงของรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของนายอนุทินในฐานะผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ได้เสนอคำถามต่อรัฐบาลว่า ในเมื่อปัญหานี้ได้รับการประกาศเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ทำไมถึงไม่ถูกนำไปบรรจุเป็นนโยบายเร่งด่วนในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง รวมถึงการที่นายอนุทินเองก็เคยให้ความมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยอำนาจในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสามารถสั่งการและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ สธ. หรือแม้กระทั่ง MDES ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลไกสำคัญในการต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์ แต่ ณ ปัจจุบัน สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และประชาชนก็ยังคงได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ โรม ยังได้เน้นย้ำว่า การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์นั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจับกุมผู้กระทำผิด แต่รวมไปถึงการวางมาตรการป้องกัน การสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน และการประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อจัดการกับต้นตอของปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน การขาดความคืบหน้าในการแก้ปัญหาจึงสะท้อนถึงการขาดกลยุทธ์ที่ครอบคลุมและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของภาครัฐ ทำให้สิ่งที่เคยถูกกล่าวอ้างว่าเป็น “วาระแห่งชาติ” กลับกลายเป็นเพียงคำพูดที่ยังไม่มีผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ลดน้อยลง
ความคืบหน้าและการตั้งคำถามต่อรัฐบาล
นายรังสิมันต์ โรม ได้เรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล เร่งแสดงความคืบหน้าและแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ โดยเขาระบุว่าหากยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการ จะก่อให้เกิดคำถามถึงความมุ่งมั่นและความจริงใจของรัฐบาลต่อ “วาระแห่งชาติ” ที่ได้ประกาศไว้ สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีการลักลอบกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายแก่ประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล
การที่นายอนุทินในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก ไม่สามารถแสดงผลงานที่เป็นรูปธรรมได้ สร้างความผิดหวังในหมู่ สส. ฝ่ายค้านและประชาชนผู้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด การตั้งคำถามนี้ไม่ใช่เพียงการตำหนิ แต่เป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลเร่งปฏิบัติงานอย่างจริงจัง เพื่อให้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในการประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ
สรุปข่าวทั้งหมด
โดยสรุป นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ได้แสดงความผิดหวังอย่างเปิดเผยต่อท่าทีและการดำเนินงานที่ล่าช้าของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ ถึงแม้ปัญหานี้จะถูกประกาศให้เป็น “วาระแห่งชาติ” แล้วก็ตาม การขาดความคืบหน้าที่ชัดเจนและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ทำให้เกิดคำถามถึงประสิทธิภาพและความจริงจังของรัฐบาลในการจัดการกับอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยนายโรมได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมและเร่งด่วน เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพและยุติความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วที่สุด












