
ร้านอาหาร ได้ยื่นข้อเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้มีการพิจารณาทบทวนหรือแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อันเนื่องมาจากความกังวลว่าข้อกำหนดและบทลงโทษบางประการที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับปัจจุบันอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญหรือไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ โดยกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารเชื่อว่ากฎหมายที่มีอยู่มีความเข้มงวดเกินไปและไม่ได้ส่งเสริมบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อการท่องเที่ยวและการบริโภค ซึ่งอาจนำไปสู่การซ้ำเติมสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง รวมถึงบั่นทอนศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เข้ามาใช้จ่ายและสร้างรายได้ให้กับประเทศในช่วงเวลาที่สำคัญ
ประเด็นสำคัญจาก: ร้านอาหาร จี้ ทบทวน พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ใหม่ หวั่นซ้ำเติมท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น
กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากได้แสดงความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลกระทบของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดและบทลงโทษที่พวกเขามองว่าไม่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจและอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคบริการ การเรียกร้องให้มีการทบทวนกฎหมายนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเร่งฟื้นฟูและดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา เพื่อสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญซึ่งเป็นโอกาสทองในการสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ
ประเด็นหลักที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือข้อจำกัดเกี่ยวกับเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และบทลงโทษที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวและวิถีชีวิตในบางพื้นที่ที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความยุ่งยากในการดำเนินงานของร้านอาหารและสถานบันเทิงเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติบางส่วนที่คุ้นชินกับการบริโภคอย่างเสรีในประเทศอื่น ๆ อาจรู้สึกว่าประเทศไทยมีข้อจำกัดมากเกินไป นำไปสู่การตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางอื่น
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
การเรียกร้องขอทบทวน พ.ร.บ.ฉบับนี้มิใช่เพียงแค่การลดข้อจำกัดในการขายหรือการบริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมองหาแนวทางที่จะสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพของประชาชน และการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟู ผู้ประกอบการต่างชี้ให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดเกินไปโดยไม่คำนึงถึงบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี การมีกฎระเบียบที่ยืดหยุ่นและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมีส่วนช่วยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น
หนึ่งในข้อเสนอแนะที่สำคัญคือการพิจารณาอนุญาตให้ร้านอาหารสามารถโฆษณาหรือนำเสนอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับการทำการตลาดในระดับสากล และเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดื่มด่ำกับอาหารและเครื่องดื่มในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้มีการพิจารณาผ่อนปรนเรื่องเวลาในการจำหน่ายในบางพื้นที่หรือในบางประเภทของร้านค้าที่เน้นการให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ
สรุปข่าวทั้งหมด
การเรียกร้องให้ทบทวนพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จากภาคส่วนร้านอาหารนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนในการปรับสมดุลระหว่างการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวกับการดูแลสุขภาพของประชาชน ผู้ประกอบการหวังว่าการทบทวนกฎหมายในครั้งนี้จะนำไปสู่การผ่อนคลายข้อจำกัดบางประการที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญที่กำลังจะมาถึง การที่ภาครัฐจะพิจารณาข้อเรียกร้องเหล่านี้อย่างรอบคอบและเปิดกว้าง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ รวมถึงแนวทางปฏิบัติสากลด้านการท่องเที่ยวและการบริโภค ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์และบั่นทอนศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดการท่องเที่ยวโลกต่อไป












