ภาพประกอบข่าว: เตรียมจ่ายเพิ่ม ! กรมศุล จ่อรีดภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้า ตั้งแต่บาทแรก เริ่ม 1 ม.ค 69
เครดิตภาพ: mayuree

เตรียมจ่ายเพิ่ม สำหรับผู้ที่นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ เนื่องจากกรมศุลกากรมีแผนที่จะเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้าออนไลน์นำเข้าทุกรายการ โดยจะเริ่มตั้งแต่บาทแรกของการสั่งซื้อสินค้า ไม่ว่าจะมีมูลค่าเท่าใดก็ตาม ซึ่งมาตรการใหม่นี้มีกำหนดจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากนโยบายดังกล่าวเป็นการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อความเป็นธรรมทางการค้า และป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีในระบบปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดความได้เปรียบของสินค้าต่างประเทศที่แต่เดิมได้รับยกเว้นภาษีในกรณีที่มีมูลค่าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด

ประเด็นสำคัญจาก: เตรียมจ่ายเพิ่ม ! กรมศุล จ่อรีดภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้า ตั้งแต่บาทแรก เริ่ม 1 ม.ค 69

ประเด็นสำคัญจากการประกาศของกรมศุลกากรเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้าตั้งแต่บาทแรกนั้น เป็นมาตรการที่มุ่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการแข่งขันทางการค้า โดยปัจจุบันสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศโดยผู้ประกอบการไทยต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตั้งแต่บาทแรกอยู่แล้ว ในขณะที่สินค้าออนไลน์นำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าต่ำ มักจะได้รับการยกเว้นภาษีภายใต้กฎเกณฑ์เดิม ทำให้สินค้าเหล่านี้มีราคาถูกกว่าและได้เปรียบในการแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับภาครัฐ

นอกจากนี้ การยกเลิกมาตรการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาสินค้าออนไลน์ที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยอาจหันมาบริโภคสินค้าจากผู้ประกอบการในประเทศมากขึ้น หรือพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศอย่างรอบคอบยิ่งขึ้น มาตรการนี้ยังเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มการเติบโตของการค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กรมศุลกากรจึงจำเป็นต้องปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันสมัยและครอบคลุม เพื่อรองรับปริมาณการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การดำเนินการนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางสากลที่หลายประเทศเริ่มมีการปรับปรุงระเบียบการเก็บภาษีสินค้าออนไลน์ที่นำเข้าจากต่างประเทศเช่นกัน

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

การดำเนินการตามแผนการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าออนไลน์นำเข้าทุกรายการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 นั้น มีความซับซ้อนในเชิงปฏิบัติและจำเป็นต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด กรมศุลกากรจะต้องพัฒนาระบบและขั้นตอนการจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การคำนวณและเรียกเก็บภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยเฉพาะการจัดการกับสินค้าที่มีมูลค่าน้อยและมีจำนวนมาก การปรับปรุงระบบดังกล่าวจะรวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและผู้ให้บริการขนส่ง เพื่อให้สามารถตรวจสอบและประเมินภาษีได้อย่างครบถ้วนและโปร่งใส โดยคาดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะนำมาซึ่งความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

ในส่วนของภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทั้งแพลตฟอร์มและผู้ขาย จำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน อาจต้องมีการอัปเดตราคาสินค้าให้สะท้อนถึงภาษีที่เพิ่มขึ้น และแจ้งให้ผู้บริโภคทราบถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการปรับปรุงระบบการแสดงราคาและคำนวณภาษีอัตโนมัติบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ซื้อทราบราคาสุดท้ายที่ต้องชำระได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ก่อนทำการสั่งซื้อ การสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใสจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเข้าใจและลดความสับสนที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคในช่วงเริ่มต้นของการบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้ นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐอาจจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม

สรุปข่าวทั้งหมด

สรุปได้ว่า กรมศุลกากรมีแผนสำคัญในการปฏิรูปการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าออนไลน์นำเข้า โดยจะเริ่มจัดเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ไม่ว่าสินค้าจะมีมูลค่าเท่าใดก็ตาม มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า ลดความได้เปรียบของสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ และเพิ่มรายได้ให้กับภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ทั้งหมดนี้เป็นการปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับการขยายตัวของการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน และเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบภาษีให้มีความทันสมัยและครอบคลุมยิ่งขึ้น ผู้บริโภคและผู้ประกอบการควรเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยอาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อขาย และการปรับปรุงกลไกการดำเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อให้สอดรับกับนโยบายภาษีใหม่

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here