
โต้ข่าวขยายถึง 70 ปี – นายบวรศักดิ์ สุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวเผยแพร่เกี่ยวกับการขยายอายุเกษียณราชการเป็น 70 ปี ว่าไม่เป็นความจริง โดยระบุว่าคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายได้ทำการศึกษาประเด็นนี้ แต่ข้อสรุปไม่ได้เป็นการเสนอให้ขยายอายุเกษียณถึง 70 ปีแต่อย่างใด การศึกษาดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง ในขณะที่ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว คณะกรรมการจึงได้พิจารณาแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรนี้อย่างรอบด้าน การชี้แจงของนายบวรศักดิ์เป็นการทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับสาธารณชน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
ประเด็นสำคัญจาก: โต้ข่าวขยายถึง 70 ปี ”บวรศักดิ์“ แจงศึกษาขยายเกษียณอายุแค่ 65 ปี
ประเด็นสำคัญที่นายบวรศักดิ์ สุวรรณโณ ชี้แจงคือ การศึกษาเรื่องการขยายอายุเกษียณราชการนั้น คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายได้พิจารณาข้อเสนอให้ขยายอายุเกษียณออกไปเป็น 65 ปี ไม่ใช่ 70 ปี ตามที่มีข่าวลือแพร่ออกไป โดยการศึกษาดังกล่าวไม่ได้เป็นการเสนอออกกฎหมายบังคับเป็นการทั่วไป แต่เป็นการเสนอให้หน่วยงานราชการพิจารณาในลักษณะของ “ทางเลือก” หรือ “เงื่อนไข” ที่จะสามารถขยายอายุเกษียณได้ เพื่อให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นสามารถรักษาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์สูงไว้ได้ต่อ โดยเฉพาะในสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนและต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางภาวะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวนั้น การรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพไว้ในระบบราชการให้นานขึ้นอีกระยะหนึ่ง อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนงานภาครัฐในบางภาคส่วน
สาเหตุหลักที่ทำให้มีการศึกษาประเด็นนี้คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งจำนวนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อัตราการเกิดลดลง ส่งผลให้สัดส่วนของประชากรวัยแรงงานต่อประชากรสูงอายุลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มนี้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาระทางการคลังในการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น การพิจารณาขยายอายุเกษียณจึงเป็นหนึ่งในแนวทางที่ถูกนำมาศึกษาเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนของการรักษาบุคลากรภาครัฐที่มีคุณค่าและประสบการณ์ไว้ และยังช่วยให้ผู้สูงอายุที่มีความพร้อมยังคงสามารถทำงานสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและตนเองได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการลดภาระแก่กองทุนบำเหน็จบำนาญในระยะยาวได้อีกด้วย
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ในการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายนั้น ได้มีการพิจารณาอย่างรอบด้านถึงผลกระทบจากการขยายอายุเกษียณเป็น 65 ปี โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของแต่ละหน่วยงานราชการในการประเมินความพร้อมและความเหมาะสมของบุคลากรเป็นรายกรณีไป ซึ่งหมายความว่าการขยายอายุเกษียณจะไม่ใช่การบังคับใช้กับบุคลากรทุกคนโดยอัตโนมัติ แต่จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงานนั้นๆ โดยต้องคำนึงถึงสุขภาพ ความสามารถในการปฏิบัติงาน และความต้องการของหน่วยงานเป็นหลัก การดำเนินการดังกล่าวเป็นการหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การปิดกั้นโอกาสของคนรุ่นใหม่ หรือการคงไว้ของบุคลากรที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาถึงการจัดสรรงบประมาณบุคลากรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการวางแผนจัดการบุคลากรเพื่อรองรับการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากผู้สูงอายุสู่คนรุ่นใหม่ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอในการขยายอายุเกษียณเป็น 65 ปี โดยมีเงื่อนไขและทางเลือก ไม่ใช่การประกาศใช้กฎหมายเป็นการทั่วไป สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะสร้างความยืดหยุ่นให้กับระบบราชการในบริบทของสังคมสูงวัย ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถปรับตัวและรับมือกับความท้าทายด้านประชากรได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากกลุ่มประชากรที่มีประสบการณ์และทักษะสูง ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การพิจารณาขยายอายุเกษียณนี้ยังเชื่อมโยงกับการเสริมสร้างระบบบำนาญที่ยั่งยืน และลดความตึงเครียดทางการคลังในระยะยาว ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการปฏิรูปเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่สมบูรณ์แบบในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ การนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องจากนายบวรศักดิ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน
สรุปข่าวทั้งหมด
โดยสรุปแล้ว การชี้แจงของนายบวรศักดิ์ สุวรรณโณ ได้ทำลายความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขยายอายุเกษียณราชการเป็น 70 ปี โดยยืนยันว่าการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายมุ่งเน้นไปที่การเสนอทางเลือกให้ขยายอายุเกษียณเป็น 65 ปี ภายใต้เงื่อนไขและความเหมาะสมของแต่ละหน่วยงานเป็นรายกรณี การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายของการเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทย โดยเน้นการรักษาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ไว้ในระบบราชการให้นานขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพและองค์ความรู้ของพวกเขาในการขับเคลื่อนประเทศ การดำเนินการนี้คำนึงถึงความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากบุคลากรสูงอายุกับการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ รวมถึงการจัดการผลกระทบด้านงบประมาณและบุคลากรอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ การดำเนินการในอนาคตจะต้องอาศัยการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนในระยะยาว
		
			











