ภาพประกอบข่าว:
เครดิตภาพ: https://www.pptvhd36.com

อนุทิน ลั่นสันติภาพจบแล้ว — อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ประกาศอย่างชัดเจนว่าการเจรจาสันติภาพในกรณีข้อตกลงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยได้ฉีกปฏิญญา 4 ข้อที่เคยตกลงร่วมกันไปแล้ว ทั้งนี้ นายอนุทินยังได้แสดงท่าทีไม่สนใจคำแนะนำจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ระบุว่าไม่จำเป็นต้องรายงานสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นความสำคัญภายในที่ไม่ควรต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากผู้เกี่ยวข้องภายนอก

ประเด็นสำคัญจาก: “อนุทิน” ลั่นสันติภาพจบแล้ว ฉีกปฏิญญา 4 ข้อ ไม่สนกัมพูชา เมิน “ทรัมป์” บอกไม่ต้องรายงาน

เหตุผลที่ทำให้อนุทิน ชาญวีรกูล ลั่นว่าสันติภาพจบลงแล้วและฉีกปฏิญญา 4 ข้อนั้น เนื่องจากปัญหาการเจรจาและการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงโดยฝ่ายของกัมพูชา นายอนุทินเห็นว่าการดำเนินการที่แสดงออกมาไม่สอดคล้องกับปณิธานและการจัดการที่เคยวางกรอบไว้ การตัดสินใจดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ปฏิกิริยาจากต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาผ่านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำไปสู่ความไม่พอใจในการจัดการภายในของประเทศไทย นายทรัมป์ได้ให้ข้อเสนอว่าไม่จำเป็นต้องรายงานเรื่องดังกล่าวให้เป็นที่ทราบของประชาคมระหว่างประเทศ แต่รัฐบาลไทยกลับมองว่าความสัมพันธ์และการตัดสินใจภายในเช่นนี้ไม่ควรต้องพึ่งพาการพิจารณาของฝ่ายนอกรัฐบาล

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

การฉีกปฏิญญา 4 ข้อในครั้งนี้ มีการระบุถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อจำกัดและข้อกำหนดด้านเศรษฐกิจ, การค้าขาย, ความร่วมมือด้านการรักษาความมั่นคง และข้อจำกัดด้านการเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้เคยถูกกำหนดให้เป็นหัวข้อที่ทั้งไทยและกัมพูชาต้องร่วมมือกันจัดการ แต่กลับพบความไม่สอดคล้องในการดำเนินการตามข้อกำหนดเหล่านั้น

จากการสัมภาษณ์และให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการต่างประเทศของไทย มีการระบุว่าการที่ประเทศไทยตัดสินใจเช่นนี้มีพื้นฐานอยู่ที่การปกป้องและรักษาผลประโยชน์ภายในประเทศ ซึ่งการที่ปฏิญญา 4 ข้อนี้ถูกฉีกอาจมีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ใหม่หลังจากนี้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการจัดการความขัดแย้งครั้งนี้อย่างเร่งด่วน

สรุปข่าวทั้งหมด

สรุปได้ว่า การที่อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศว่าการเจรจาสันติภาพสิ้นสุดลงและการฉีกปฏิญญา 4 ข้อ เป็นการตัดสินใจเพื่อตอบสนองต่อการไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงกับกัมพูชา แม้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์จะเสนอว่าไม่ต้องรายงานสถานการณ์ดังกล่าว แต่ผลกระทบของการตัดสินใจครั้งนี้ย่อมส่งผลต่อทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะยาว การติดตามต่อไปคือจะมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในรูปแบบใดและเมื่อไร

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here