
พ.ร.บ.แอลกอฮอลล์ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ได้ออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่ามาตรการควบคุมและข้อจำกัดต่างๆ ที่ปรากฏใน พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ฉบับใหม่นี้ จะบั่นทอนบรรยากาศการท่องเที่ยวและสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างมหาศาล สมาคมฯ เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ทบทวนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อหาจุดสมดุลระหว่างการควบคุมกับส่งเสริมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจของการสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ประเด็นสำคัญจาก: พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ ฉุดไฮซีซัน สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร จ่อร้องนายกฯ
ประเด็นสำคัญที่สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารหยิบยกขึ้นมาคือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับ “ไฮซีซัน” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ที่มีมาตรการควบคุมการจำหน่าย การบริโภค และการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด อาจสร้างความไม่สะดวกและข้อจำกัดที่ทำให้นักท่องเที่ยวลดทอนความสนใจในการมาเยือนประเทศไทย
ผู้ประกอบการบนถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ได้วิเคราะห์ว่าข้อจำกัดเกี่ยวกับเวลาในการจำหน่าย การห้ามส่งเสริมการขายบางประเภท และข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อบรรยากาศการสังสรรค์และกิจกรรมทางสังคมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะแสวงหาในยามค่ำคืน การที่กฎหมายดังกล่าวมีการบังคับใช้ในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์และขัดขวางการฟื้นตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ประเด็นที่สร้างความหนักใจให้กับผู้ประกอบการคือความไม่ชัดเจนบางประการในรายละเอียดของกฎหมาย และการบังคับใช้ที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือข้อขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน การขาดความยืดหยุ่นในการบังคับใช้อาจก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างไม่เฉพาะแต่ธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และกิจการอื่นๆ ที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลให้สมาคมฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้มีการทบทวนและหาทางออกร่วมกันอย่างเร่งด่วน
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารได้เตรียมข้อมูลและผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากพื้นที่ เพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐและนายกรัฐมนตรี ข้อมูลเหล่านี้จะครอบคลุมถึงประมาณการความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง รายได้ของผู้ประกอบการที่หดหายไป รวมถึงผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคบริการ ทั้งในส่วนของพนักงาน ร้านค้า และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่เกี่ยวข้อง การนำเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์เหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ และความจำเป็นเร่งด่วนในการพิจารณาปรับปรุงหรือชะลอการบังคับใช้มาตรการบางอย่างใน พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการควบคุมและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
การพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเป็นความหวังของผู้ประกอบการในการหาทางออกที่เหมาะสม โดยคาดหวังว่าจะมีการพิจารณานโยบายที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของภาคการท่องเที่ยวได้ดีขึ้น การปรับแก้กฎหมายอาจรวมถึงการพิจารณาอนุญาตให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับลักษณะของแหล่งท่องเที่ยว การผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับการโฆษณาหรือส่งเสริมการขายที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม และการสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนในบทบัญญัติของกฎหมายแก่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันปัญหาและความสับสนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน
สรุปข่าวทั้งหมด
สถานการณ์ที่ พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ฉุดกระแสไฮซีซันของการท่องเที่ยวไทยกำลังเป็นประเด็นร้อนที่สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารต้องออกมาเรียกร้องให้มีการทบทวนอย่างเร่งด่วน ประเด็นหลักคือความกังวลว่ากฎหมายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวและรายได้ของผู้ประกอบการในช่วงเวลาที่สำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ สมาคมฯ จะนำเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์ต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการผ่อนปรนหรือปรับแก้มาตรการบางอย่าง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ความร่วมมือและการรับฟังเสียงจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงเป็นกุญแจสำคัญในการหาทางออกที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในระยะยาว












