
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวขอโทษและยอมรับว่าคำพูดที่เปรียบเปรยสถานการณ์การรักษาอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชานั้นอาจทำให้เกิดความสับสนและไม่เข้าใจในเจตนาที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ได้ใช้คำเปรียบเทียบว่า “คล้ายการรุกล้ำอธิปไตย” จากฝ่ายไทยไปยังฝั่งกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันในพื้นที่ดังกล่าวที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน การชี้แจงนี้เกิดขึ้นหลังจากคำพูดดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปและก่อให้เกิดการตีความที่หลากหลายและอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทำให้เกิดความจำเป็นต้องออกมาชี้แจงและขออภัยในสิ่งที่สื่อสารออกไปอย่างไม่ชัดเจนจนสร้างความเข้าใจผิด
ประเด็นสำคัญจาก: “อนุทิน“ ขอโทษคำพูดสับสน! เปรียบเปรยไทยรุกล้ำกัมพูชาในพื้นที่อ้างสิทธิ์
ประเด็นหลักที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมากล่าวขอโทษนั้น เกิดขึ้นจากคำให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ที่สื่อถึงสถานการณ์พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งนายอนุทินได้ใช้คำพูดที่เปรียบเทียบว่าการที่ไทยเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์นั้น เป็นการ “คล้ายการรุกล้ำอธิปไตย” ของกัมพูชา ทำให้คำพูดดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และก่อให้เกิดความสับสนในวงกว้าง ทั้งในประเทศและในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โดยปกติแล้ว การกำหนดแนวเขตทางทะเลและพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและมักเป็นข้อพิพาทที่ต้องใช้กระบวนการเจรจาทางการทูตในการแก้ไขปัญหา การใช้ถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการ “รุกล้ำ” แม้จะเป็นเพียงการเปรียบเทียบ ก็อาจถูกตีความไปในเชิงลบและสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของประเทศไทยได้ ดังนั้น การออกมากล่าวขอโทษของนายอนุทินจึงเป็นการแสดงความรับผิดชอบและแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายและกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและกระบวนการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า เจตนาที่แท้จริงของการกล่าวถึงเรื่องนี้คือการต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการเข้าถึงหรือดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการเจรจาและหาข้อสรุปร่วมกันระหว่างสองประเทศ การเปรียบเปรยดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามหลักสากลและรักษามิตรภาพอันดีระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยที่ผ่านมาได้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) และการหารือในระดับต่างๆ เพื่อหาทางออกในการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันอย่างเป็นธรรมและไม่กระทบต่ออธิปไตยของทั้งสองฝ่าย
การบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของทรัพยากรพลังงานและทางทะเล เป็นเรื่องที่ต้องมีการวางแผนและดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างสูงสุด เนื่องจากมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง คำพูดของนายอนุทินจึงสะท้อนถึงความพยายามที่จะสร้างความเข้าใจว่าไม่ควรมีการกระทำใดๆ ที่อาจถูกตีความว่าเป็นการล่วงละเมิดสิทธิของอีกฝ่ายตราบเท่าที่ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนและเป็นลายลักษณ์อักษร การออกมาขอโทษและชี้แจงครั้งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยับยั้งการตีความผิดๆ และเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการเจรจาต่อไป
สรุปข่าวทั้งหมด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาชี้แจงและกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนเกี่ยวกับคำพูดที่เคยเปรียบเปรยสถานการณ์การบริหารจัดการพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนและตีความผิดจากเจตนาเดิม โดยยอมรับว่าคำกล่าวที่ว่า “คล้ายการรุกล้ำอธิปไตย” อาจเป็นถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมและสร้างความไม่เข้าใจ เจตนาที่แท้จริงคือต้องการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างรอบคอบในพื้นที่ที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน เพื่อรักษามิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมการเจรจาเพื่อหาทางออกในการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันอย่างสันติและเป็นธรรม การชี้แจงครั้งนี้จึงช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างความมั่นใจในแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลต่อประเด็นละเอียดอ่อนนี้.












