
วิกฤต RAM ในปัจจุบันได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ด เมื่อภาวะขาดแคลนทำให้ผู้ผลิตหลายรายในอุตสาหกรรมต้องกักตุนสินค้าต้นทุนสำคัญนี้เพิ่มเติม สถานการณ์ดังกล่าวนี้เริ่มส่งผลกระทบให้ราคาของ RAM ในตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อวงกว้างของตลาดไอที โดยเฉพาะในช่วงที่ทั่วโลกต้องพึ่งพาการทำงานจากระยะไกลและความต้องการคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประเด็นสำคัญจาก: วิกฤต RAM ขาดแคลนกระทบผู้ผลิตเมนบอร์ด พากักตุน ทำราคาเพิ่มขึ้นอีก
ประเด็นสำคัญจากวิกฤตการขาดแคลน RAM นี้มีผลกระทบที่ชัดเจนต่อผู้ผลิตเมนบอร์ด ซึ่งต้องพึ่งพาชิ้นส่วนเหล่านี้ในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การขาดแคลนนี้ส่วนหนึ่งมาจากภาวะซับพลายในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากการผลิตที่ลดลงในประเทศผู้ผลิตหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปิดโรงงานชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด-19 หรือปัญหาด้านการส่งออกและโลจิสติกส์ที่ชะลอตัว
นโยบายกักตุน RAM ของผู้ผลิตเมนบอร์ดบางรายทำให้ตลาดพบกับการขาดตลาด ส่งผลให้ราคาของ RAM เพิ่มสูงขึ้น ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้เพียงแต่สร้างภาระให้กับผู้ผลิตเท่านั้น แต่ยังสร้างความลำบากใจให้กับผู้บริโภคในตลาดไอทีที่ต้องการอัปเกรดหรือซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์ของตน
สถานการณ์นี้ยังมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อออกไป เนื่องจากความสามารถในการผลิตของโรงงานยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ และการควบคุมการส่งออกยังมีข้อจำกัดต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ความขาดแคลนยังคงดำเนินต่อไปในระยะเวลาใกล้เคียงกับไตรมาสถัดไป
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้แทนโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า การปรับตัวในด้านการผลิตเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วน ขณะที่มาตรการกักตุนจากฝั่งผู้ผลิตเมนบอร์ดยังน่ากังวลเนื่องจากอาจทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ตามรายงานจากหน่วยงานวิจัยอุตสาหกรรมพบว่าราคา RAM ในบางรุ่นได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่เที่ยงตรงในด้านการสำรองสินค้าและการตอบสนองต่อความต้องการที่คาดไม่ถึง ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้ใช้และนักลงทุนในอุตสาหกรรม IT ว่าราคาจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอีกต่อไป
สรุปข่าวทั้งหมด
วิกฤต RAM ขาดแคลนย้ำเตือนถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นในอุตสาหกรรมไอที การแข่งขันในการกักตุนเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบทั้งต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และซัพพลายเออร์ แนวโน้มในอนาคตยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง และควรรอการตอบสนองจากผู้ผลิตรายใหญ่เพื่อฟื้นฟูสมดุลของตลาดและควบคุมราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้












