
โฆษกเพื่อไทย ได้ตั้งคำถามถึงรัฐบาลเกี่ยวกับการต่อสัญญาการจัดการแข่งขัน MotoGP ในประเทศไทย โดยได้แสดงความกังวลว่ารัฐบาลอาจกำลังใช้ประเด็นเรื่องที่ดิน “เขากระโดง” จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเครื่องมือในการเจรจาหรือเป็นตัวประกันสำหรับการสนับสนุนการแข่งขันระดับโลกนี้หรือไม่ การตั้งคำถามดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นปมขัดแย้งมาอย่างยาวนาน และเกี่ยวข้องโดยตรงกับพื้นที่ที่ใช้จัดการแข่งขันในปัจจุบัน โดยพรรคเพื่อไทยต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลว่าแผนการต่อสัญญา MotoGP มีความเชื่อมโยงกับปัญหาที่ดินที่เป็นประเด็นใหญ่และละเอียดอ่อนอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนในระยะยาวหรือไม่.
ประเด็นสำคัญจาก: “โฆษกเพื่อไทย” ถาม “รัฐบาล” ปมต่อสัญญา MotoGP หวังใช้ที่ดินเขากระโดงเป็นตัวประกันหรือไม่?
ประเด็นหลักที่โฆษกพรรคเพื่อไทยหยิบยกขึ้นมาสอบถามรัฐบาลคือความโปร่งใสและเจตนาเบื้องหลังการต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน MotoGP โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงกับปัญหาที่ดิน “เขากระโดง” ที่ยังคงเป็นข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของสนามแข่งรถจักรยานยนต์บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในปัจจุบัน การที่โฆษกเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลอาจใช้เรื่องที่ดินนี้เป็น “ตัวประกัน” สะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจในกระบวนการตัดสินใจ และความกังวลว่าอาจมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่างเกิดขึ้น โดยที่อาจไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง การแข่งขัน MotoGP เป็นอีเวนต์ระดับโลกที่นำชื่อเสียงและรายได้เข้าสู่ประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน หากการต่อสัญญาต้องแลกมาด้วยการแก้ไขปัญหาที่ดินในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม ก็อาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและภาพลักษณ์ของประเทศได้ในระยะยาว.
ปัญหาที่ดินเขากระโดงมีความซับซ้อนและยาวนาน โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ผู้ครอบครองที่ดินบางส่วนต้องคืนที่ดินให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินดั้งเดิม การที่พื้นที่สนามแข่ง MotoGP ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีข้อพิพาทนี้ ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวังในการดำเนินการ หากรัฐบาลเร่งรัดการต่อสัญญาโดยไม่ได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ดินอย่างรอบคอบ ก็อาจถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรมและอำนาจในการตัดสินใจได้ โฆษกพรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงอย่างเปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดงควบคู่ไปกับการพิจารณาอนาคตของการเป็นเจ้าภาพ MotoGP เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ครบถ้วนและโปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งควรได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างเข้มงวด.
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
คำถามของโฆษกพรรคเพื่อไทยต่อรัฐบาลไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการต่อสัญญา MotoGP เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแนวทางและมาตรการที่รัฐบาลจะใช้ในการจัดการกับปัญหาที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลที่ควรได้รับการดูแลและใช้ประโยชน์เพื่อสาธารณะ การที่พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลอาจใช้ประเด็นที่ดินนี้เป็นเครื่องมือในการต่อรอง แสดงให้เห็นถึงความกังวลว่าอาจมีการละเลยหลักการธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการดำเนินงาน โครงการขนาดใหญ่ระดับชาติเช่นนี้ไม่ควรมีข้อกังขาเรื่องความชอบธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศและที่ดินของรัฐ การแข่งขัน MotoGP มีมูลค่าและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเป็นข้ออ้างสำหรับการมองข้ามข้อสงสัยเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในประเด็นที่ดิน.
การดำเนินการของรัฐบาลต่อกรณีนี้จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสาธารณชนและฝ่ายค้าน การให้ข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อสร้างความเข้าใจและลดข้อกังขา โฆษกพรรคเพื่อไทยยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาในทุกมิติ ทั้งในแง่ของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และกฎหมาย เพื่อให้การตัดสินใจใดๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดๆ ที่อาจเป็นไปอย่างไม่ยุติธรรม การที่ประเด็นที่ดินเป็นข้อพิพาทที่ยาวนานและมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย ทำให้การแก้ไขปัญหาต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปมปัญหาใหม่ตามมาในอนาคต.
สรุปข่าวทั้งหมด
การตั้งคำถามของโฆษกพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการต่อสัญญา MotoGP และความเชื่อมโยงกับปัญหาที่ดินเขากระโดง สะท้อนถึงความพยายามในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม การกล่าวอ้างว่ารัฐบาลอาจใช้ที่ดินเขากระโดงเป็น “ตัวประกัน” ในการเจรจาต่อสัญญานั้น เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและต้องการคำชี้แจงที่ชัดเจนจากรัฐบาล เนื่องจากเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของแผ่นดินและผลประโยชน์ของชาติ การจัดการกับปัญหานี้อย่างรอบคอบและโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการบริหารราชการแผ่นดิน และเพื่อให้ประเทศไทยยังคงสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกต่อไปได้โดยไม่มีข้อครหาใดๆ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายคงต้องติดตามการตอบสนองของรัฐบาลและแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าข้อสงสัยที่ถูกหยิบยกขึ้นมาจะได้รับการคลี่คลายอย่างไร และการตัดสินใจในท้ายที่สุดจะส่งผลต่ออนาคตของ MotoGP และปัญหาที่ดินเขากระโดงในระยะยาวอย่างไรบ้าง.












