
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความชื่นชมต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรีในการประชุมเอเปค ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการรับมือและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นของการเสนอให้มีการประชุมเร่งด่วนเพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติประเภทนี้ การให้ความสำคัญในเวทีระดับนานาชาติเช่นเอเปคนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นและผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ศิริกัญญาย้ำว่าการจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการต่อสู้ที่ต้องอาศัยกลไกและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ใช่เพียงแค่ภายในประเทศ แต่รวมถึงประเทศที่เป็นแหล่งที่มาของแก๊งเหล่านี้ด้วย การใช้เวทีเอเปคจึงเป็นการเปิดช่องทางสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ประเด็นสำคัญจาก: “ศิริกัญญา” ชมนายกฯ ประชุมเอเปคไทยน่าเสนอตัวเป็นเจ้าภาพปราบแก๊งคอลฯ
ประเด็นหลักที่ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หยิบยกขึ้นมาคือการสนับสนุนบทบาทของนายกรัฐมนตรีในการนำเสนอประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) เธอมองว่าการใช้โอกาสนี้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือเจ้าภาพในการหารือและกำหนดมาตรการร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกเป็นแนวทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง การจัดการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติเช่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยการดำเนินการของประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพัง จำเป็นต้องมีกลไกความร่วมมือทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การประสานงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย และการพัฒนากฎระเบียบที่เป็นสากล เพื่อสกัดกั้นและทำลายเครือข่ายเหล่านี้ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ซึ่งมักมีการดำเนินการที่ซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการหลอกลวงประชาชน
การแสดงความเห็นของศิริกัญญาในครั้งนี้ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความคืบหน้าที่สำคัญในการตระหนักถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในระดับนโยบายของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอประเด็นนี้ขึ้นสู่เวทีระดับนานาชาติ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และทรัพย์สินของประชาชนอย่างกว้างขวาง ทั้งยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับประเทศสมาชิกอื่นๆ ว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือและเป็นผู้นำในการต่อสู้กับภัยคุกคามรูปแบบใหม่นี้ นอกจากนี้ การที่นายกรัฐมนตรีมีการนำเสนอประเด็นนี้ด้วยตนเองในระหว่างการประชุมเอเปค ยิ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้กลายเป็นวาระสำคัญระดับโลก ซึ่งไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ปัญหาภายในประเทศอีกต่อไป การสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลกจึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องได้รับการผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจจากการถูกคุกคาม
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ศิริกัญญาเน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเสนอว่าประเทศไทยควรใช้โอกาสจากการประชุมเอเปค ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้นำและผู้กำหนดนโยบายจาก 21 เขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก มาเป็นเวทีในการกระตุ้นให้เกิดการประชุมเฉพาะกิจหรือการจัดตั้งคณะทำงานระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์มักมีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการเคลื่อนย้ายฐานปฏิบัติการไปตามประเทศต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม ทำให้การดำเนินคดีหรือการขอความร่วมมือจากต่างประเทศเป็นไปได้ยากและล่าช้า หากประเทศสมาชิกเอเปคสามารถตกลงร่วมกันในการสร้างกลไกที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนข้อมูล การติดตามจับกุม และการส่งผู้ร้ายข้ามแดนสำหรับคดีประเภทนี้ จะเป็นการยกระดับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ได้อย่างก้าวกระโดด
การที่นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นหารือในเวทีเอเปคนั้น แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองเห็นถึงผลกระทบในระยะยาวของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่เพียงแต่เฉพาะในประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย การเสนอให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) หรือข้อตกลงร่วมกัน เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือที่ชัดเจนในการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบอื่น ๆ จะเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน และยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบการเงินและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศสมาชิก การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแลด้านโทรคมนาคม และสถาบันการเงินของแต่ละประเทศ จะช่วยให้การป้องกันและปราบปรามมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนให้รู้เท่าทันกลโกงของแก๊งเหล่านี้ผ่านการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการให้ความรู้แก่สาธารณะ
สรุปข่าวทั้งหมด
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ใช้เวทีการประชุมเอเปคในการนำเสนอและผลักดันประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เธอมองว่านี่เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยควรเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมหรือสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อรับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมหาศาล การที่นายกรัฐมนตรีหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือในระดับนานาชาติ สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักในความสำคัญของปัญหา และความจำเป็นในการบูรณาการความร่วมมือจากหลายฝ่าย เนื่องจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอาชญากรรมที่มีมิติข้ามพรมแดน การแก้ไขจึงต้องอาศัยความร่วมมือทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานงานด้านกฎหมาย และการพัฒนากลไกที่รวดเร็วในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด การใช้เวทีเอเปคจึงเป็นการเปิดประตูสู่การสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพื่อปกป้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจจากภัยคุกคามไซเบอร์ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น.
		
			











